J-doradic.com เว็บ ดิกไทย – ญี่ปุ่น ดิกญี่ปุ่น – ไทย ที่ดีที่สุด

เลือกหมวดหมู่
ความหมาย

จากหนังสือ ภาษาญี่ปุ่น 5 สนุก

 

 

足をふまれました

คนเหยียบขา

 

           สวัสดีค่ะแฟนเจโดะระมังงะทุกคน ที่ติดตามอ่านบทความจากหนังสือที่ดิฉันเขียน

ถ้าดิฉันเห็นอันไหนน่าสนใจก็จะนำมาโพสให้อ่านจะได้ความรู้กันอย่าง

กว้างขวางเพราะความรู้ไม่มีพรมแดน และเป็นของที่แบ่้งปันกันได้นะคะ

 

          ใครที่สนใจอยากอ่านเรื่องอื่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับ ภาษาญี่ปุ่น วัฒนธรรมญี่ปุ่น หรือสังคมญี่ปุ่น นิยายญีุ่่ปุ่้น เรื่องเกี่ยวกับอาหาร หรืออยากเขียนถามคำถาม ข้อสงสัยอะไรก็ได้นะคะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะ

 

          วันนี้เอาเรื่องที่อ่านที่น่าสนใจใน ภาษาญี่ปุ่น 5 สนุก 足をふまれました。คนเหยียบขา ก็เลยเขียนมาโพสให้แฟนๆเจโดะระมังงะอ่านกัน จะได้เรียนรู้และสนุกด้วยกันนะคะ

 

           ใครที่สนใจ เชิญแวะชมโรงเรียนเด็กวัดปรียาได้ที่

http://preeya.japankiku.com/index.php

 

            วันนี้ดิฉันอยากจะเอาเรื่องที่อ่านใน ภาษาญี่ปุ่น 5 สนุก

足をふまれました。คนเหยียบขา มาให้อ่าน เพราะว่า

ในภาษาญี่ปุ่นจะใช้รูป ukemi 受身(うけみ) รูปถูกกระทำบ่อยมาก และรูปถูกกระทำที่คนญี่ปุ่นใช้และที่คนไทยใช้ ในภาษาญี่ปุ่นและไทย มีทั้งที่คล้ายคลึงกัน และแตกต่างกันอย่างมาก

          บ่อยครั้งทีเดียวที่ในภาษาไทย เราไม่ต้องใช้รูป passive voice

รูปถูกกระทำ เหมือนในภาษาญี่ปุ่น ทำให้เวลาที่เราเรียน รูปถูกกระทำ

ในภาษาญี่ปุ่นแล้ว ใช้ได้ไม่ถูกต้อง เหมือนดึงของในลิ้นชักที่ใส่ของคน

ละอย่างออกมานั่นเอง

         

           ในภาษาไทย บ่อยครั้งที่เราใช้รูปกระทำเพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่ดี หรือไม่พึงประสงค์ เช่น ไม่ได้ทำการบ้่าน หรือลืมเอากาบ้านไปโีรงเรียน เราอาจจะระบายความเสียใจกับเืพื่อนว่า

 

            Kyoo sensei ni shika rareta.

     今日(きょう)先生(せんせい)にしかられた

                 วันนี้ (ฉันผม) ถูกครูดุ

 

       หรือเราอาจจะบอกเพื่อนที่จะชวนเราไปเที่ยวงานปาร์ตี้ด้วย รูปธรรมดา โดยไม่ใช้รูปถูกกระทำ หรือ active voice ก็ได้ว่า คงไปด้วยไม่ได้ เพราะเมื่อวาน แม่เพิ่งดุว่าเอาแต่เที่ยว รูปประโยคก็ใช้เป็รูปธรรมดา โดยไม่ใช้รูปถูกกระทำ หรือ active voice  ก็ได้ในภาษาไทย เช่น

                      

     Haha wa watashi o shikatta.

                  母はわたしをしかった

                   แม่ดุฉันผม

 

            ดิฉันเรียน รูปถูกกระทำ 受身 มาหลายสิบปี และทั้งที่สอนนักเรียนมานานปี  ดิฉันก็ยังไม่เห็นว่า จะมีหนังสือตำราไหน หรืออาจารย์ญี่ปุ่นคไหน ที่สามารถสอนนักเรียนต่างชาิติไม่ว่าทั้งเอเชีย หรือนักเรียนชาวตะวันตกให้เรียนแล้วเข้าใจและเอาไปใช้ได้อย่างถูกต้อง เพราะโครงสร้างทางภาษาญี่ปุ่นและไทย ตลอดจนภาษาอังกฤษแตกต่างกัน ทำให้รูปถูกกระทำ 受身ในภาษาญี่ปุ่นซับซ้อน ไม่เหมือนกับโครงสร้างทาง

ภาษาของภาษาอื่น กว่าจะเข้าใจได้ ต้องใช้เวลา และต้องเข้าใจอย่าง

แท้จริงถึงจะใช้ได้ 

          หรือไม่ตามตำราเรียนภาษาญี่ปุ่นหรือที่ไหนก็ตาม ที่เห็นๆก็เห็นเล่้าซ้ำๆกัน ไม่อาจที่จะย่อยให้ผู้เรียนเข้าใจได้ เพราะมันซับซ้อน เหมือนที่เด็กวัดโรงเรียนเด็กวัดปรียา nani เขียนมาถาม

 

         วันนี้ เอาเรื่องที่อ่่านเจอในหนังสือ ภาษาญี่ปุ่น 5 สนุก มาให้ทุกคนได้อ่านกัน เมื่อไรที่ดิฉัน หยิบหนังสือชุดนี้ขึ้นมาอ่านทีไร จะต้องมีเรื่องมาเขียนให้พวกเราได้อ่านกันทุกที แล้วก็ต้องขอให้พวกเราไปติดตามหาซื้อ หาอ่านกันเองต่อไปนะคะ

        

         ดิฉันขอขอบคุณ เว็บมาสเตอร์เจโดะระมังที่เห็นคุณค่าของหนังสือชุดนี้ และยังเขียนมาบอกว่า ผมเองก็โต เพราะหนังสือชุดนี้ขออาจารย์คร้บ ทำให้อาจารย์ดีใจที่ตอนนี้มีโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ได้มีโอกาสอ่านหนังสือชุดนี้ที่ดิฉันใช้เวลาทุ่มเทแปล คนเดียวถึง 7 ปี เมื่อ 23 ปีที่แล้ว และตอนนี้หนังสือชุดนี้ก็ได้กลายเป็นมรดกตกทอดให้นักเรียนที่เรียนภาษาญี่ปุ่นรุ่นใหม่ได้เรียนกันอย่างเต็มที่

ในขณะนี้

          ขอแจ้งให้ผู้ที่สนใจทราบว่า หนังสือ ภาษาญี่ปุ่น 6  สนุก กำลังจะออกวางตลาดตามร้านหนังสือทั่วไป ภายในอีกหนึ่งหรือสองอาทิตย์นี้ค่ะ

            -------------

             

         เมื่อเช้าวานนี้ คุณเลอร์นเนอร์ต้องขึ้นรถไฟที่แสนจะแน่นไปที่ทำงานของเขา เมื่อไปถึงที่ทำงาน คุณเลอร์นเนอร์รู้สึกเหนื่อย จึงนั่งพักอยู่สักครู่ก่อนที่จะเริ่มทำงาน คุณโยะชิดะถามคุณเลอร์นเนอร์ว่า เป็นอะไรหรือเปล่า คุณเลอร์นเนอร์เล่าให้ฟังว่า รถไฟแน่น และยังเล่าต่อว่า

          

             Dare ka ga ashi o fumi mashita

           誰かが足をふみました

    มีคนเหยียบขาผม

     

            คุณเลอร์นเนอร์จำได้ว่า ในกรณีนี้ เขาควรจะใช้ รูปกริยาถูกกระทำ จึงจะถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้น คุณเลอร์นเนอร์ จึงพูดใหม่ว่า

     

           X  ashi ga fumare mashita

             足がふまれました

      ถูก(คน)เหยียบขาผม

 

            คุณโยะชิดะเข้าใจได้ทันทีว่า คุณเลอร์นเนอร์อยากจะพูด

ว่าอะไร เธอจึงบอกคุณเลอร์นเนอร์ว่าที่ถูกต้องจะต้องพูดว่า

           

             ashi o fumare mashita

           足をふまれました

    ถูก(คน)เหยียบขาผม

 

    รายละเอียดขอให้ไปหาซื้ออ่านต่อเองนะคะ เพราะำ

ไม่มีเวลาพิมพ์หมดทั้งเรื่องค่ะ

 

         ทุกท่านคงจะสงสัยว่า ทำไมใช้รูปประโยคที่คุณเลอร์นเนอร์ใช้ไม่ได้  เหตุผลก็คือ

           

                 X  ashi ga fumare mashita

                  足がふまれました

           ถูก(คน)เหยียบขาผม 

 

     ถ้าใช้ ashi ga 足が ผูู้พูดจะ เน้นที่ ขาแทนที่จะเน้นถึงผลของการกระทำที่ได้รับจากอีกฝ่าย ซึ่งก็คือ เหยียบ ดังนั้นจึงใช้ไม่ได้ เช่นเดียวกัน ถ้าเราอยากจะพูดว่า ถูกเพื่อนที่ทำงานปัดแข้งปัดขาผม เราก็จะใช้ว่า

        

     kaisha de dooryoo ni ashi o hipparareta.

   会社(かいしゃ)同僚(どうりょう)(あし)(いん)()られた

         แปลความหมายตามตัวอักษรก็คือ

           ผมถูกเพื่อนที่ทำงานดึง หรือลากขาผม

 

        คำว่า hipparu 引っ張るความหมายโดยทั่วไปก็คือ

1)      ดึง หรือชักชวน เช่น ขี้เกียจไม่อยากออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่เพื่อนมาลากไป หรือถูกตำรวจลากตัวไป หรือในกรณีที่ถูกพี่น้องหยอกล้อกัน เช่น ถูกพี่แกล้งลากแข้ง ลากขาก็ใช้ได้

 2) ใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ที่ตัวเองไม่ได้นึกไม่ได้ฝัน เช่น ลูกน้องทำอะไรผิดพลาดเกี่ยวกับเรื่องงานที่ทำอยู่ ตัวเองเป็นหัวหน้ารับผิดชอบอยู่ ก็เลยต้องจำยอมรับผิดชอบแทนลูกน้องไปด้วย

 

3)      เป็นสำนวนที่ใช้ในความหมายว่า มีคนแอบใช้วิธีการสกปรก กลั่นกลั่นอีักฝ่ายในที่ลับ เช่น กระจายข่าวเกี่ยวกับอีกฝ่ายใน

  ทางที่เสียหาย หรือแกล้งไปบอกคนอื่นเกี่ยวกับอีกฝ่ายในแง่ลบ ทำให้อีกฝ่ายเสียหาย โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ เพราะหวังผลประโยชน์ส่วนตัวของตัวเอง

 

ในกรณีนี้ จะเหมือนกับสำนวนในภาษาไทยที่ว่า  ปัดแข้งปัดขา

อีกฝ่าย ด้วยเรื่องผลประโยชน์ หรือเหม็นหน้า เพราะทนเห็น

อีกฝ่ายดีกว่า หรือเหนือกว่าตัวเองไม่ได้ ในกรณีนี้สำนวนนี้

ในภาษาญี่ปุ่นจะใช้บ่อยพอๆกับในภาษาไทย

 

       แต่ที่น่าสนใจอย่างยิ่งเกี่ยวกับสำนวนนี้ก็คือ ในภาษาอังกฤษ คำว่า hipparu 引っ張る หรือ pull someone’s leg นั้น กลับไม่ได้มีความหมายที่รุนแรง หรือไม่ดี แต่อย่างไร จะมีความหมายเพียงแค่ หยอกล้อ หรือล้อเล่นอีกฝ่าย เป็นต้น เช่น ที่โรงเรียนเพื่อนชอบเอากระดาษมาแอบแปะ และเขียนอะไรข้างหลัง หรือเอาเทปมาแปะป็นการหยอกล้อกันสนุกๆไม่ได้รุนแรงเหมือนสำนวนที่ใช้ในภาษาไทยและญีปุ่น

 

      ขอให้เราเอาสำนวนนี้ไปใช้ในทางที่ดี แบบภาษาอังกฤษดีกว่า

อย่าเลียนแบบความหมายในภาษาไทยและญี่ปุ่นเพราะเป็นการกระทำ

ที่ไม่สร้างสรรค์ และคนรู้เข้า คนที่ปัดแข้งปัดขาคนก็จะเสียหายเอง

มากกว่า

     อ่านแล้วไม่เข้าใจตรงไหน เขียนมาถามได้ที่โรงเรียนเด็กวัดปรียา หรือจะแสดงความคิดเห็นก็ได้ เชิญได้ที่ http://preeya.japankiku.com/index.php

 

では、また。