สวัสดีค่ะแฟนเจโดะระมังงะทุกคน
八時にかえらなければなりません
หน้า 112-114
ภาพหน้าปกของเล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มหนึ่งที่ดิฉันชอบมาก เพราะจะเป็นการแสดงให้เราเห็นรูปร่างหน้าตาของพระเอกหรือตัวเอกที่แสดงละครคะบุคิในสมัยเอะโดะ ไม่เพียงแต่จะให้บรรยากาศรสนิยมการแต่งตัวของตัวละครในสมัยนั้น แต่ทรงผม และสีสันที่ใช้ในสมัยนั้นยังให้ความรู้เรามากมาย ดูหน้าปกแล้วพอจะแยกออกมั้ยคะว่า ใครที่แสดงบทเป็น ผู้ชายและใครที่แสดง บทเป็นผู้หญิง
แฟนหนังสือดิฉัน ที่มีหนังสือชุดนี้ในครอบครองแล้วคงรู้ดีว่า หน้าปกทุกเล่มจะมีคำอธิบายของภาพประกอบ เพื่อที่ว่่าจะได้เรียนนและศึกษาว่าในสมัยเอะโดะ คนญี่ปุ่นทิ้งมรดกทางด้านวัฒนธรรมอะไรไว้ให้โลกบ้าง
ดิฉันตั้งใจไว้ว่า เมื่อพิมพ์ออกมาครบ 10 เล่มจะเอาเรื่องในหน้าปกในสมัยเอะโดะให้มาเล่าให้ฟังกันทุกคน คงไม่นานเกินรอเพราะจะออกมาครบสิบเล่มเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า หรือปี 2009 คงเป็นภาพหน้าปกประวัติศาสตร์ที่สำคัญในสมัยเอะโดะที่น่ารู้อีกสมัยหนึ่งของญีปุ่น ที่หาดูกันได้ยากแม้แต่ในญีปุ่น อย่าลืมติดตามหาซื้อกันให้ครบชุดนะคะ
ดิฉันขอขอบคุณแฟนเจโดะระมังงะ ที่แสดงความคิดเห็น และติดตามอ่านบทความและไปหาซื้อหนังสือที่ีมีคุณค่าที่นำมาแนะนำให้แฟนเจโดะระมังงะได้รู้ว่า มีหนังสือที่ดิฉันทำใหม่อะไรออกมาบ้าง
วันนี้มีโอกาสนำเรื่องราวเกี่ยวกับการใช้สำนวนเกี่ยวกับกฏเกณฑ์ให้เด็กวัด โรงเรียนเด็กวัดปรียาอ่าน ก็เลยถือโอกาสนำมาแบ่งปัน เผื่อใครที่ไม่รู้จะได้เรียน และอ่าน คนที่จะสอบวัดระดับก็จะได้เตรียมตัวกันได้เต็มที่
ดิฉันพยายามรวบหัวข้อเรื่องจากหนังสือที่มีอยู่จะได้หาอ่านและเรียนกันได้ ใน‘ไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น (หน้า 222, 290) มีตัวอย่างเพียบหลายๆอย่าง’ และ‘กลยุทธ์การสนทนาภาษาญี่ปุ่น’ เล่ม 2 หน้า 692-97 จะมีคำอธิบายละเีอียด และแบบฝึกหัดให้ฝึกทำ แต่ยังไม่มีโอกาสเอาออกมาพิมพ์ซ้ำให้อ่าน
วันนี้จะเรียบเรียงและย่อสั้นๆให้เรียนกัน
107. ภาระส่วนตัว และทางสังคม
สำนวนหลัก คือ
Hachiji made ni tookyoo eki e ika nakereba nari masen.
八時までに東京駅へ行かなければ なりません。
ผมจะต้องไปสถานีโตเกียว(ให้ทัน)ตอนแปดโมงเช้า
คำอธิบายเชิงไวยากรณ์
ในภาษาญีปุ่่น เมื่อพูดถึง ‘ภาระและหน้าที่’ ผุ้พูดจะกล่าวอ้อมๆด้วยการ
1) ใช้เงื่อนไขปฎิเสธ ba ば ซึ่งก็คือรูป なければ
2) ใช้รูปปฎิเสธของ คำกริยา dooshi 動詞และ คำคุณศัพท์รูปที่ลงท้ายด้วย いkeiyooshi 形容詞 ซึ่งก็คือ รูป nakute wa なくては
สำนวนที่ว่านี้มีความหมายตามตัวอักษรว่า ‘ถ้าไม่ทำอย่างนี้ไม่ดี หรือถ้าไม่ก็ทำให้ฉันรำคาญใจ ’ หรือ ‘ต้อง’ นั่นเอง
สำนวน nakereba naranai なければ ならない จะกล่าวถึงหน้าที่ที่จำเป็นจะต้องทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตามบัญญัติในกฏหมาย เช่น
Kono tatemono ni hairu niwa kyoka o e na kereba naranai
この建物に入るには許可をてなければ ならない。
บุคคลที่จะเข้าไปในตึกนี้จะต้องมีหมายอนุญาต
สำนวนนี้ยังใช้กล่าวถึงความจริงที่มีเหตุผลมีผล เช่น
Wareware wa kanarazu shi nakereba naranai
我々は必ず死 なければ ならない
พวกเราทุกคนยังไงก็ต้องตา่ยอย่างแน่นอน
สำนวนที่กล่าวถึงภาระและหน้าที่อื่นๆจะรวมสำนวนต่อไปนี้คือ
nakereba naranai
なければ ならない
nakutewa naranai
なけては ならない
nakereba ikenai
なければ いけない
nakutewa ikenai
なけては いけない
ในบรรดาสำนวนต่างๆเหล่านี้ คนญี่ปุ่นมักจะใช้โครงสร้่าง
1. nakereba ikenai
なければ いけない
เวลาที่ให้ ข้อเสนอแนะ ออกคำสั่ง และเน้นการเรียกร้อง จากฝ่่ายที่มีฐานะทางสังคมด้อยกว่า สำนวนที่ว่านี้จะผู้อาวุโสกว่าจะใช้กับอีกฝ่ายที่ด้อยอาวุโสกว่าโดยตรง
ในทางตรงกันข้าม สำนวน
nakereba naranai
なければ ならない
มักจะใช้สำนวนบุรุษที่1ซึ่งเป็นประธานของประโยค หรือผู้พูดนั่นเอง โดยต้องการที่จะกล่าวเป็นนัยให้อีักฝ่ายรู้ว่า ตัวเองจะต้องทำอะไรบางอย่าง เพราะเหตุผลต่างๆบังคับ เช่น กฏหมายบังคับ หรือไม่ก็เ็ป็นภาระหน้าที่ส่วนตัว
(มีต่อ)
ใครที่สนใจ เชิญแวะไปเรียนต่อ เวลาที่โพสในโรงเรียนเด็กวัดปรียาได้ที่
http://japaneseisfun.com/bbs/index.php
では、また。
プリヤー インカピロム
ปรียา อิงคาภิรมย์