J-doradic.com เว็บ ดิกไทย – ญี่ปุ่น ดิกญี่ปุ่น – ไทย ที่ดีที่สุด

เลือกหมวดหมู่
ความหมาย


คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น



















ระบบ PC, Xbox360, Playstation 3
       เรตเกม PEGI: 18 เหมาะสำหรับผู้เล่นที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
       
       จากกระแสความนิยมของเกมแนวชูตติ้งในปัจจุบัน ที่ทำให้บรรดาค่ายเกมต่างๆไม่เว้นแม้แต่ค่ายเกมจากแดนซากุระต้องหันมาเหลียว มองลองตีตลาดเกมแนวนี้ดูบ้าง ซึ่งเกมนี้ก็ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ไม่สัมฤทธิ์ผล
       
       ในโลกอนาคตปีค.ศ. 2080 ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยี AI ก้าวล้ำสมัยก่อให้เกิดยุคเครื่องจักรกลที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความ สะดวกและหุ่นยนต์ที่อยู่อาศัยปะปนร่วมกับมนุษย์คล้ายๆกับภาพยนตร์เรื่อง "ไอ โรบอท" แต่ทว่าได้เกิดเหตุการณ์มีมนุษย์จักรกลที่เป็นหุ่นยนต์ในร่างมนุษย์ที่ถูก เรียกว่า "Hollow Child" ซึ่งเป็นโครงการลับต้องห้ามหลุดออกมาทำร้ายผู้คน ทางรัฐบาลสหรัฐฯจึงสืบสาวราวเรื่องไปจนถึง "อามาดะ โยจิ" บิดาผู้ให้กำเนิดเหล่าเครื่องจักรและอัจฉริยะเจ้าของบริษัท Amada Corporation ในประเทศญี่ปุ่น ผู้มีความแค้นฝังลึกกับบริษัท Bergen ของสหรัฐอเมริกาที่แอบอ้างขโมยผลงานของตนไป
       
       เมื่อเส้นแบ่งระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์เริ่มเลือนลางจากการก่อกำเนิด ของมนุษย์จักรกลที่กำลังเข้าแทรกซึมสู่สังคม ผู้เล่นจะได้สวมบทบาทของ "แดน มาร์แชล" สมาชิกหน่วย IRTA (International Robotics Technology Association) ซึ่งเป็นหน่วยที่ถูกก่อตั้งพิเศษขึ้นมาเพื่อรับมือกับปัญหาหุ่นยนต์ทั่วทุก มุมโลกโดยเฉพาะกรณี Clause 21 หรือพวกฮอลโลว์ไชลด์ โดยเขาจะได้รับมอบหมายภารกิจลักลอบเข้าไปยังกรุงโตเกียวมหานครแห่งเครื่อง จักรฝ่าป้อมปราการเหล่ากองทัพหุ่นยนต์เพื่อจับกุมตัว "อามาดะ" มาดำเนินคดีให้จงได้
       
       เกม "Binary Domain" ถูกพัฒนาโดยค่ายเซก้า ซึ่งได้ผู้กำกับอย่าง "นาโกชิ โยชิฮิโระ" ผู้สร้างซีรีส์ Yakuzaและทีมงานมาทำเกมนี้ให้ ตัวเกมจะเป็นแนวยิงมุมมองบุคคลที่สามหลบเข้าที่กำบังแบบเดียวกับ Gears of War เพียงแค่เปลี่ยนจากยิงอสูรกายมาเป็นหุ่นยนต์แทน แล้วผสมกลิ่นอายความเป็นอาร์พีจีลงไปด้วยการปรับแต่งสกิลพัฒนาตัวละครและ เพื่อนร่วมทีม โดยเน้นเรื่องราวอันเข้มข้นและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครตามสไตล์ซีรีส์ยา กูซ่า
       
       ซึ่งกองทัพศัตรูที่เป็นหุ่นยนต์ในเกมนับร้อยที่ออกมาต้อนรับเราอย่าง ไม่หยุดหย่อนนั้น เราสามารถใช้อาวุธปืนยิงทำลายชิ้นส่วนต่างๆตามร่างกายของหุ่นยนต์ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเล็งยิงส่วนขาเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว ยิงแขนเพื่อปลดอาวุธ ยิงลำตัวเพื่อทำลายเกราะ แต่ที่สำคัญที่สุดคือส่วนหัวที่คอยสั่งการหากเรายิงโดนเพียงนัดเดียวศัตรูก็ จะสับสนหันเข้าทำร้ายพวกเดียวกันเอง แต่ตัวเกมไม่มีท่าสังหารศัตรูที่นอนอยู่กับพื้นบังคับให้ผู้เล่นต้องคอยหมุน มุมกล้องลงแล้วกดโจมตีระยะประชิดแทน นอกจากนี้ในแต่ละฉากยังมีบอสขนาดใหญ่ยักษ์ที่คอยผู้เล่นอยู่ซึ่งมีจำนวนหลาก หลายรูปแบบมากและมีวิธีกำจัดที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยหลักๆแล้วก็คือการทำลายเกราะเพื่อหาจุดอ่อนที่เป็นแผงวงจรไฟฟ้าตามตัว บอสและทำลายมันซะ ซึ่งสนุกมากทีเดียวเมื่อเทียบกับการฝ่าฝูงลูกกระจ๊อกรูปแบบซ้ำๆตามฉาก
       
       ตัวเกมจะมีรูปแบบการเล่นที่เน้นทีมเวิร์คกับเพื่อนร่วมทีม โดยในช่วงต้นของแต่ละฉากตัวเกมจะเปิดโอกาสให้เราสามารถเลือกสมาชิกมาเข้า ร่วมทีมได้ตามใจชอบโดยจำกัดจำนวนสมาชิกในทีมสูงสุดเพียงแค่ 3 คน โดยเราสามารถติดต่อสื่อสารพูดคุยและออกคำสั่งกับเพื่อนร่วมทีม AI ให้ช่วยยิงคุ้มกัน ถอย รวมกลุ่ม หรือเลือกสั่งการเจาะจงเพื่อนแต่ละคนด้วยการพูดชื่อแล้วตามด้วยคำสั่ง ซึ่งเราสามารถสั่งการทุกอย่างได้ด้วยเสียงผ่านทางชุดหูฟังบลูทูธ รองรับได้ถึง 6 ภาษาซึ่งทางทีมงานใส่เข้ามาให้เป็นจุดเด่นของเกมนี้ แต่กลับกลายเป็นข้อด้อยอย่างใหญ่หลวงเนื่องจากตัวระบบจดจำเสียงที่เอาแน่เอา นอนไม่ได้ นอกจากจะบังคับให้ผู้เล่นต้องออกสำเนียงให้ถูกแล้วยังต้องพูดช้าๆดังๆชัดๆ เหมือนกับว่าตัวเราเป็นหุ่นยนต์ซะเอง แถมเพี้ยนอีกต่างหากเวลาเราพูดอย่างแต่ในเกมกลับออกมาตรงกันข้าม นอกจากเพื่อนร่วมทีมจะไม่พอใจแล้วยังทำให้เราเสียอารมณ์ด้วย แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ปุ่มเลือกสั่งการจะดีกว่า
       
       อีกทั้งแอนิเมชั่นการเคลื่อนไหวของตัวละครก็ดูแข็งๆทื่อๆยิ่งเวลา เดินลงบันไดด้วยแล้วจะเห็นได้อย่างชัดเจน ส่วน AI เพื่อนร่วมทีมของเราก็ไม่ฉลาด บ่อยครั้งที่ชอบวิ่งไปมาแล้วเดินเข้ามาขวางทางปืนบังวิถีกระสุนของเรากลาย เป็นยิงพวกเดียวกันซะงั้น เวลาสั่งการอะไรไปก็มีออกอาการเงอะงะให้เห็น แถมยังเข้ามาเบียดเราในที่กำบังแคบๆซะอีก ยิ่งศัตรูมาเป็นฝูงเราก็จะได้เห็นถึงความสับสนอลหม่านที่แท้จริง แม้ว่าเพื่อน AI เหล่านี้จะถูกกำหนดสไตล์การต่อสู้ที่แตกต่างกันไปตามอาวุธที่ตนถนัด อย่างเช่น Big Bo ที่ใช้ปืนกลหนักจะเน้นวิ่งเข้าหาดงศัตรู ส่วน Faye มือสไนเปอร์จะหลบเข้าที่กำบังสูงๆคอยส่องจากแนวหลังก็ตาม นอกเหนือจากฉากบู๊ยิงกันแล้วตัวเกมยังได้ใส่เหตุการณ์ควิกไทม์อีเวนท์กดปุ่ม ให้ตรงตามจังหวะ ฉากว่ายน้ำ สไลด์เดอร์ตัวลงมาช่องระบายน้ำ ขับเจ็ตสกี และฉากยิงไล่ล่ากันบนทางด่วนเข้ามาเพื่อเพิ่มความหลากหลายในเกม
       
       เมื่อทำลายหุ่นยนต์ศัตรูผู้เล่นจะได้รับ Credits เอาไว้ซื้อและอัพเกรดอาวุธที่ตู้ขายอัตโนมัติที่มีอยู่มากมายตามฉาก ผู้เล่นสามารถติดตั้งอาวุธได้สูงสุด 4 ช่อง คือ อาวุธหลัก อาวุธรอง ปืนพก และระเบิด ตัวเกมจะไม่มีระบบเลเวลแต่จะใช้ระบบติดตั้งสกิลที่เรียกว่า "นาโนแมชชีน" เพื่อเพิ่มค่าสเตตัสและความสามารถพิเศษอื่นๆให้แก่ตัวละคร อาทิ เพิ่มความอึด เพิ่มเลือด รีโหลดกระสุนไว เป็นต้น ระหว่างฉากจะมีการหยุดพักจากการบู๊ให้ได้พูดคุยกับผู้คนในเมือง แต่ก็เป็นเพียงแค่พื้นที่จำกัดเท่านั้นไม่ได้เปิดอิสระให้เดินสำรวจทั้ง เมืองเหมือนซีรีส์ยากูซ่า
       
       นอกจากนี้เรายังสามารถสนทนาเลือกตอบคำถามกับเพื่อนร่วมทีมแต่ละคน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยตัวเกมจะมีระดับค่าความไว้เนื้อเชื่อใจหรือ "Trust Level" ที่มีอยู่ถึง 3 ระดับคือ ปกติ สูง และสูงสุด ซึ่งไม่ได้มีระดับต่ำจนถึงขั้นเกลียดไม่ไว้ใจเราเลยและมันก็ส่งผลต่อเนื้อ เรื่องและการต่อสู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยค่าความไว้ใจจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น ประสิทธิภาพในการรบของทีม การกำจัดศัตรูให้ได้ไว อัดศัตรูด้วยมือเปล่า ยิงหัวศัตรู การเลือกกระทำตามที่เพื่อนเสนอแนะ แต่อย่างไรก็ตามค่าความไว้ใจนี้ก็อาจลดลงได้หากเราปล่อยให้ศัตรูเข้ามาตลบ หลัง ยิงโดนเพื่อนร่วมทีม (เกิดขึ้นเป็นประจำและเสียค่าความไว้ใจตรงส่วนนี้มากที่สุด) เลือกคำตอบผิดหรือเลือกคำตอบที่ถูกใจเพื่อนคนหนึ่ง แต่กลับเป็นที่ไม่พอใจของเพื่อนอีกคน ซึ่งเพื่อนส่วนใหญ่จะให้เราจะตอบเออออตามน้ำไป ยกเว้นนางเอกที่เจ้าตัวชอบยิงคำถามเชิงประชดให้เราต้องคิดดีๆก่อนตอบ
       
       ส่วนเรื่องภาพกราฟฟิกนั้น ตัวเกมทำออกมาได้ดีทั้งรายละเอียดของฉาก ความสวยงามสมจริง รวมไปถึงใบหน้าของตัวละครที่สื่อถึงอารมณ์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เนื้อเรื่องก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยมน่าติดตามทั้งๆที่เป็นเกมแนวบู๊ ทางฝั่งระบบเสียงก็ไม่แพ้กันดังกระหึ่มทั้งเสียงปืนเสียงระเบิดพร้อมดนตรี ประกอบที่เข้ากับบรรยากาศ สำหรับโหมดมัลติเพลย์เยอร์ ในโหมดผู้เล่นเจอกันเองแบบ "Versus" ก็มีโหมดต่างๆให้เลือกเล่นมากมาย และรองรับผู้เล่นพร้อมกันสูงสุด 10 คนต่อหนึ่งแมตช์แบ่งทีมสู้กัน 5 ต่อ 5 หรือจะเลือกร่วมกันเล่นกับเพื่อนช่วยกันสู้เอาตัวรอดฝูงศัตรูที่มาเป็นระลอก ในโหมด "Invasion" ก็ยังได้ แต่น่าเสียดายที่ ณ ตอนนี้หาคนเล่นออนไลน์ด้วยได้ยากมากบนเครื่องพีซี หรือใช้คำว่าไม่มีเลยจะดีกว่า แถมตัวเกมก็ไม่มีบอทให้เล่นคลายเหงา
       
       สรุปแล้ว "Binary Domain" ถือว่าสอบตกในเรื่องของเกมเพลย์และระบบ AI ที่น่าจะทำออกมาได้ดีกว่านี้ แต่ยังดีที่ตัวเกมมีการนำเสนอเนื้อหาได้อย่างน่าสนใจ เนื้อเรื่องมีการหักมุมเล็กๆน้อยๆ และเหล่าบอสที่มีรูปแบบหลากหลายให้ผู้เล่นได้ใช้สมองคิดหาวิธีเอาชนะ ที่ยังคงดึงดููดให้ผู้เล่นตามติดเรื่องราวในเกมและพยายามเล่นมันจนจบได้
       
       
เกมการเล่น 7
กราฟิก 8
เสียง 8
ความคิดสร้างสรรค์ 7
ความคุ้มค่า เล่นฆ่าเวลาเพลินๆ
ภาพรวม 7.5

       
       ข้อดี : เสียงเยี่ยม, กราฟฟิกสวย, เศษหุ่นยนต์กระจายเป็นชิ้นๆให้ความสะใจ, เนื้อเรื่องเข้มข้นน่าติดตาม, อารมณ์ร่วมระหว่างตัวละครและฉากเลิฟซีน
       ข้อเสีย : เกมเพลย์แข็งกระด้าง, ระบบ AI ที่โง่, ระบบสั่งการด้วยเสียงที่ไร้ประโยชน์
       ข้อแนะนำ : เล่นฆ่าเวลาดูเนื้อเรื่อง
       
       Minimum System Requirements (ระบบขั้นต่ำที่รองรับ)
       • Operating System: Microsoft Windows XP / Vista / 7
       • Processor: Intel Core 2 Duo @ 2.66 GHz or AMD equivalent
       • Memory: 2GB RAM (XP) / 3GB RAM (Vista/7)
       • Graphics: NVIDIA Geforce GT220 (512MB) / ATI Radeon HD 2600 XT (512MB)
       • Hard Drive: 8GB free hard drive space
       
       Recommend System Requirements (สเปคเครื่องคอมพิวเตอร์ที่แนะนำ)
       • Operating System: Microsoft Windows 7
       • Processor: Intel Core i5 @ 2.66 GHz or AMD equivalent
       • Memory: 3GB RAM
       • Graphics: NVIDIA Geforce GTX 460 (1GB) / ATI Radeon HD 5750 (1GB)
       • Hard Drive: 8GB free hard drive space
       
       Shin
       สนับสนุนบทความรีวิวโดยบริษัท นิวอีร่า อินเตอร์แอคทีฟ มีเดีย จำกัด New Era Games
       ราคาข้างกล่อง 899 บาท